วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

เตือนน้อง

เพราะความรักไม่ใช่ได้โดยง่าย
ที่ง่ายดายแน่แท้คือรักหรือ
จงฟูมฟักอย่ารักไม่หาลือ
อย่าได้ถือชั่วแล้นอาจผิดทาง

ใช้เวลาเรียนรู้สักนินึง
แล้วค่อยจึงวาดหวังปรับแก้ถาง
รอพร้อมเปลี่ยนปรับปรุงมุ่งเสริมสร้าง
หนทางกว้างรออยู่อดใจรอ

วันนี้พอแค่เรียนกันและกัน
ความผูกพันธ์คิดกันถึงเรือนหอ
โปรดเถิดหนาคุณค่าคือการรอ
แล้วรักพอจะมีแน่เพียรอดทน

ขอเป็น

ขอเป็นหนึ่งในคนเป็นหมื่นล้าน
ที่ได้ผ่านแวะเวียนแค่เพียงเห็น
แม้นหากใช่ชายนั้นที่ได้เป็น
คนที่เซ็นสมรสได้คู่ครอง

ส่งลา

สุดท้ายเหลือการงานพากเพียรทำ
ที่ยังจำฝังบนพื้นภพโลก
สายสัมพันธ์ที่ผันดังลมโบก
นี่คือโลกอนิจจังหนอเพื่อนเอย



ชีวิตสุดสายทางที่ยาวไกล
มาเพื่อไปถิ่นใดใครใคร่รู้
เหลือแต่คนเดินดินที่ยังอยู่
เพื่อจะสู้วันพรุ่งนี้อีกครา
วันนี้เพื่อนเตือนเราว่าชีวิต
ไม่แน่นอนกี่วันที่หรรษา
ใช่นิรันดร์วันหนึ่งถึงต้องลา
หมั่นสร้างค่าเวลาหยาดนาที

อารมณ์

อารมณ์ ทำลายคุณค่าของเหตุผลเสมอ
อารมณ์ สร้างงานที่มีคุณค่าเช่นกัน
ใช้อารมณ์อย่างถูกที่ ถูกทาง ถูกวิธี

พบ ผูก จาก

ผมเพิ่งพบว่า
การพบเจอ ความผูกพัน การลาจาก
เป็นเรื่องเดียวกันจนน่าแปลกใจ
แอบคิดว่า รู้งี้เราไม่พบเจอ ผูกพัน เลยดีไหม
เพื่อที่จะไม่ต้องเศร้ากับการลาจากที่จะมาเคาะประตู
แต่ ใน ที่ สุด
ผมเลือกที่จะพบเจอ ผูกพัน
และรับมันกับการลาจากที่จะมาถึง
เพราะการพบเจอ ความผูกพัน เราเลือกที่จะเก็บมันมาเป็นความสุข
และให้การจากลาเป็นเพียงความจำที่ไม่อาจพราก

ความสุขที่เราไขว่คว้าไว้ก่อนที่มันจะมาถึง

เพราะ เรา เลือก ได้

เอื้อนห่างรัก

เอื้อนเอยเลยหัวใจใคร่รัก
สุขสมหรือประจักษ์รู้ได้
เหม่อมองลองคิดถึงสุดไกล
เหตุใดใยรักห่างเรานั้นเสียจริง






ให้รักเรียงเพียงฝันอันรางเรือน
ให้รักเอื้อนทักทายหน่อยได้ไหม
ให้รักเป็นเรื่องจริงใช่เผลอไป
ให้รักได้สมหวังที่รอคอย

รอคอย

การรอคอยคือเริ่มรู้อดทน
เพื่อรอคนเตรียมพร้อมยอมทนได้
เชื่อเวลามีค่าที่ผ่านไป
วางลงได้แม้นเสียไปเพื่อรักเธอ

จรดลายน้ำ

เพียงวันเดียวเลี้ยวลดจรดลายน้ำ
ปรอยฝนพรำครามทะเลระลอกไหว
ปรดเปลื้องลมชมท่องล่องลอยไป
สู่คนไกลท่วงใจคิดถึงกัน

อ้วน

โอ้แม่เจ้าสุดเปรมอิ่มหนักหนา
แต่จำว่าลดน้ำหนักไม่ใช่เหรอ
กินอย่างนี้คงได้ลดกันแหละเธอ
เดี๋ยวพอเผลอเลขร้อยจะมาเยือน




โอ้หลั่นล้าอิ่มกุ้งตัวไย้ใหญ่
และที่ไลค์ปลาสามรสสดเหลือที่
อีกชมไฟคนเล่นเคล้าดนตรี
ก่อนพรุ่งนี้จะจากจรห่างอีกนาน

ใจคน

ใต้ฟากฟ้าผืนดินโลกใบเดียว
ใยลดเลี้ยวไม่สู้ใจคนหนอ
เกินจะเข้าใจกันไม่เคยพอ
หรือต้องรอสิ้นสุดถึงเข้าใจ

ฝนตก

ฝนเอยฝนเหน็บหนาวฤดูนี้
ร่ำฤดีหม่นหมองดั่งฟ้าฝน
งันเงียบเหงาวิเวกเกินหลีกพ้น
ฝนเอยฝนใยย่ำใจคนเหงาเอย

หมดคือเธอ

ต้นเหตุของความรักนั้นคือเธอ
ปลายเหตุก็เป็นเธออีกใช่ไหม
เริ่มจนจบก็เป็นเธอไม่มีใคร
สี่ห้องใจสุดท้ายเต็มด้วยเธอ

สะท้อนใคร

ลำธารทาสะท้อนนภากาศ
ดุจดั่งทาสสะท้อนนายของเขา
เปรียบคริสตชนสะท้อนผู้นำเรา
พระคริสต์เจ้าสะท้อนเราหรือเปล่าเอย........

เหตุผล

ไม่อาจเอื้อมเทียบชั้นกับใครเข
เพราะว่าเราแค่เดินดินพอกินใช้
เพียงแต่อยากจับไพเราะเสนาะใน
ภาษาไทยสวยได้ใจต้องกวี

เรียน

อาจเป็นวันที่อาภัพดับแสง
อาจหมดแรงไร้กำลังต่อสู้
อีกหนทางข้างหน้าไม่อาจรู้
ชีวิตอยู่เพื่อเผชิญผ่านบทเรียน

โอ้ย...นาน

โอ้ยที่รักร้องเรียกเพรียกตามหา
ไปไหนมาหรือว่าเกิดช้ากว่าฉัน
หรือไม่มีหาที่ไหนได้เจอกัน
เหมือนทางตันได้แต่รอคนคู่ใจ

โปรดอย่าถาม

โอคำถามทิ่มแทงแสบดวงใจ
เมื่อคืนไปงานแต่งคู่อื่นเขา
คนมางานเดินเป็นคู่ดูตัวเรา
ยืนให้เขาตั้งคำถามควงใครเอย

ไวรัสรัก

ไวรัสรักที่พักยามเหนื่อยล้า
แพร่ออกมาสุดไกลเขตขอบโลก
คือเรื่องราวพระคุณปรอบคนโศก
ว่าทั้งโลกได้รับการไถ่เอย

ลมถึง

คิดถึงเอยลมเชยเลยอากาศ
อยากจะวาดหัวใจไปส่งเขา
เป่าตามลมบ่มใจไออุ่นเรา
ไปถึงเขาที่อยู่ไกลให้รู้เอย

แล้วแต่

แล้วแต่ใครแต่ละคนทนเพื่อรัก
แล้วแต่รักต่างประเภทหลากสีสัน
รักแบบหลงบ้างรักแบบแข่งกัน
แบบรู้ทันทะเลาะให้คุ้นเคย
หรือว่าแบบหวานมันแบบทราบซึ้ง
หรือจะแแบบคำนึงหึงหาห่วง
หรือว่าเป็นรักแบบหนี้ต้องทวง
แอบรักลวงล่อหลอกให้ชอกใจ
แต่ละรักต่างแปลกแยกผสม
แต่ว่ากลมกล่อมได้แบ่งแก้ไข

เลือกจะรักต้องวางทางหน้าเดินไป
จะแบบไหนช่างสุขใจมีรักเอย

กาย

อวัยวะต่างอย่างต่างงานกัน
ต่างแบ่งปันสรรค์งานก่อเป็นผล
จะมองเห็นไม่เห็นแล้วแต่คน
พระพรตนร่วมแรงคริสจักรเอย

พักช้า

เพียงผ่อนพักซักก้าวค่อยเดินช้า
ล่องเวลาสิ่งละอันพันละน้อย
ค่อยเคลื่อนผ่านรอบข้างบ้างทยอย
หยุดแล้วปล่อยวางเว้นเร้นชื่นชม

ว่างรัก

เวลาว่างของความรักอยู่ที่ใด
ความโสดใช่หรือเปล่าเราถามหา
หรือช่องว่างของรักไร้อาณา
เพียงรอว่าจักเต็มที่ข้างใคร