วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551

หวาน

คิดถึงเธอจะแย่
แม้หลับก็ยังฝัน
คิดถึงอยู่ทุกวัน
แล้วเธอนั้นคิดถึงใคร

อยากให้คนที่คิดถึง
นั่นเป็นคนนี้ได้ไหม
เพราะเต็มด้วยความห่วงใย
ออกจากใจหมดทั่งดวง

แปล่ม

คิดถึงเธอจะแย่

แม้หลับก็ยังฝัน

คิดถึงอยู่ทุกวัน

แล้วเธอนั้นคิดถึงใคร


อยากให้คนที่คิดถึง

นั่นเป็นคนนี้ได้ไหม

เพราะเต็มด้วยความห่วงใย

ออกจากใจหมดทั่งดวง

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

หุ่น

ดังหุ่นมนุษย์ใครเชิด
จะเปิดกองกลางขายขัง
มีไรขายหมดจบกัน
เมื่อนั้นพี่ชิ่งไปต่างแดน

ราวก่อวัดโบสโยมเห็น
ลับเล้นซุกซ่อนรัศมี
ดีทำโจ่งครึ้มเห็นดี
แปะสีหน้าองค์ปฏิมา

ผิดทำดีค้ำตัวรอด
ก่ายกอดหวังสร้างยศฐา
เรื่องแดงศัตรูเห็นตำตา
จึงมาเหหันเชิดหุ่นแทน

ร้ายหรือดีที่ฉันเจอ

เหวอ ขลุกๆๆๆๆๆ
ร่างของชายหนุ่มกลิ้งกระเด็นกระดอนจากจุดเกิดเหตุไปกว่าสองเมตร
การเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ที่สะดวกสบายดูจะไม่สะดวกกับเขาอีกต่อไป
เพราะบัดนี้ร่างของชายหนุ่มได้หันหน้ามองไปทางเพดานโลกหรือที่คนทั่วไปเรียกว่าฟากฟ้านั้นเอง
ประจวบเหมาะกับเวลาหัวคำราวหนึ่งถึงสองทุ่ม ทำให้หมู่ดาวระยิบพร่างพลายในประกายตาของชายหนุ่ม
!!!
จิตสำนึกของชายหนุ่มนึกขึ้นได้ว่า รถเราลงข้างทาง เมื่อกี้เกี่ยวกับจักรยาน
นี่ไม่ใช่เวลามามองดูดาวที่พร่างพราวเกลื่อนนภาที่งดงาม แต่เป็นเวลาที่ต้องลุกขึ้น
เพื่อตรวจสภาพร่างกายที่ความเจ็บปวดเริ่มไปสะกิดบอกไขสันหลัง
ให้ส่งเมสเสจไปยังไฮโปทารามัส เพื่อเตือนสมองว่า เจ็บเว้ย......
แขนที่แสดงอาการอ่อนล้าเล็กน้อยกับความระบมตรงนิ้วก้อย
ยันร่างกายที่ยังไม่ค่อยแน่ใจในความเจ็บปวดลุกขึ้น

"พี่เป็นอะไรไหม"เสียงสำเนียงปะปนไปด้วยอารมณ์ตกใจของชายหนุ่ม ที่อารมณ์ชิว ปั่นจักรยานชมจันทร์ยามค่ำคืน ที่โดนรถของชายหนุ่มเฉี่ยว กระเด็นกระดอนด้วยกัน เอ่ย"พี่เป็นอะไรไหม" คำถามซ้ำเดิมอีกสี่ห้ารอบเพื่อเรียกสติชายหนุ่มให้จับประเด็นคำถามให้ได้ "พี่เป็นอะไรไหม"

"ไม่เป็นไรครับ"ชายหนุ่มตอบด้วยเสียงสุภาพ ไม่ได้เกิดจากความลำคาญในคำถามแต่ประการใด
แต่เป็นการตอบเพื่อปลอบประโลมใจของผู้ถามว่า"ไม่เป็นอะไร" (ความจริงเจ็บเท้าตะหงิดๆ)

หลังจากโต้ตอบด้วยคำว่า"พี่เป็นอะไรไหม" "ไม่เป็นอะไรครับ" อยู่หลายรอบ ชายเจ้าของจักรยานตัดบทด้วยคำว่า "งั้นผมไปนะ พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม" "ครับ" ราวกับสายลมวูบหนึ่งผ่านไป ชายปั่นจักรยาน หายไปในความมืดด้วยสปีดที่น่าจะเร็วกว่าเดิม

"ไม่สิ" ห้วงคำนึงของชายหนุ่มเตือนตัวเองว่าต้องไป ตรวจสภาพร่างกาย(มีประกันต้องใช้ให้คุ้ม) เมื่อรวบรวมสติได้ก็พยุง รถขึ้น กำเบรคสต๊าทครั้งที่ 1 2 3 ...... ราวกับได้ยินเสียงอยู่ในจิตว่าไม่มีสัญญาณตอบรับจาหมายเลขที่ท่านเรียก "สต๊าทเท้า" จิตสำนึกสั่งเขาไม่รอช้ารีบปฏิบัติการด้วยความเร็ว ครั้งที่ 1 2 3 .....
เป็นเหมือนเคย" เป็นอะไรว้า........."เขาว้าวุ่นใจอยู่ราวห้าวินาทีครึ่งก็ได้กลิ่นน้ำมันพร้อมก้มดูใต้เครื่อง
"กรรม และเวร" เมื่อเลนซ์แก้วตาปรับสภาพให้เข้ากับความมืด ฉายให้เห็นภาพหยดน้ำที่มีกลิ่นเหมือนน้ำมันหยดลงพื้นพร้อมทั้งคราบน้ำมันที่มีอยู่ก่อนนองเป็นรัศมีประมาณ 15 เซนติเมตร "ไอ้หยาน้ำมันรั่วอีก"เสียงอุทานอัแผ่วเบาออกจากความคิดของเขา

เมื่อรู้ว่ารถสต๊าทไม่ติดก็โทรเรียกน้องที่อยู่ใกล้ที่สุดให้มารับ เพราะคงเข็นรถกลับบ้านไม่ไหว แต่เมื่อเวลาผ่านไปราว 5 นาที เนื่องจากมันรู้สึกนานมากในขณะนั้น และเป็นถนนที่มืดรถวิ่งเร็วเมื่อกี้เราเฉี่ยวจักรยานอีกไม่นานเราอาจโดนเฉี่ยวได้จึง ใช้ความพยายามอีกครั้งกับการสต้าทรถ

"บรืน......."เสียงเครื่องที่ดังบอกความนัยว่าใช้ได้แล้ว ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบ...........
.
.
.
เปิดไฟกระพริบเพื่อให้รู้ว่ามีรถอยู่ข้างทางโปรดระวัง
ราว 5 นาทีต่อมา "นานจริงให้ไปรับที่บ้านดีกว่า"เขาขึ้นควบรถคู่ใจที่ไม่รู้ดีหรือร้ายไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่น้อยลงอย่าไม่ต้องสงสัย

รถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เพียงไม่นานไฟหน้ารถก็ให้เห็นรถท่องราตรีอีกหนึ่งคัน มันไม่มีไฟท้าย เหมือนจักรยานคันแรก แต่ความเร็วที่ไม่มากทำให้เราหักหลบรถคันดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที ประจวบเหมาะกับที่ไม่มีรถตามมาข้างหลังเหมือนกับที่เรา ขี่รถไปเกี่ยวจักรยาน เพราะทางเส้นนี้ไม่ใช่เส้นทางหลัก
จึงคราดแคร้วภยันตราย จากคนขับรถชิวสบายยามค่ำคืนมาได้อย่างหวุดหวิด

มาคิดดูแล้วจะเรียกว่า"ซวย"ก็ไม่แปลกแต่หากชายหนุ่มขี่รถด้วยความเร็วเหมือนตอนที่เกี่ยวกับรถจักรยานหละก็ คงไม่ต้องพูดถึงว่าสถานะการณ์จะเลยร้ายกว่านี้เพียงไร

เมื่อถึงบ้านเพื่อนที่โทรตามก็มารับไปส่งโรงพยาบาล ที่ราคาค่าบริการมันพยาบาทชัดๆ
แต่ไม่เป็นไรมีประกัน (แอบปลื้มเล็กน้อยนึกว่าจะไม่ได้ใช้สิทธิซะแล้ว)

เมื่อเข้ารับการตรวจพบบาทแผลถลอกบริเวณ ขาซ้ายรวมห้าแห่ง
เล็บนิ้วก้อยมือขาวห้อเลือด และแขนล้าเล็กน้อย
บริเวณศรีษะไม่มีการกระแทก ส่วนอื่นปรกติ

เมื่อนึกดูพบว่า เป้ที่สะพายอยู่ด้านหลังที่เพิ่งซื้อมาสัปดาห์ที่แล้ว รับแรงกระแทกขณะที่ชายหนุ่มกระเด็นออกจากรถลงพื้นลาดยาง และค้ำไม่ให้ศรีษะกระแทกพื้น

สรุปว่า"ร้ายหรือดีที่ฉันเจอ"