วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รักเอยไม่เคยหยุด


อันความรักคือจุดเริ่มความเปลี่ยน
บ้างร้อนแรงบ้างสงบระลอกไหว
บ้างยาวนานหรือสั้นไม่ทันไร
อยู่ที่ใครยอมแปรปรับรับอดทน
หรือเลือกจบสยบสิ้นทุกสิ่ง
หรือแอบอิงตัวใกล้ใจล่องหน
เหมือนสงบสร้างช่องว่างหว่างสองคน
แต่แล้วบนทางรักหาหยุดเอย

กู

"ของกู"
วลีที่บอกถึงการยึดติดในวัตถุอันไม่จีรัง
ซึ่งวันหนึ่งลมแห่งการเวลาจะสลายสิ่งเหล่านี้
เหลืออยู่เพียงอดีต มีแต่คุณค่าของการกระทำเท่านั้น
ที่จะข้ามการเวลาส่งต่อรุ่นต่อรุ่นอย่างไม่สูญสลาย
อยู่ที่เราได้หว่านเมล็ดพันธุ์อะไรเพื่อโลก และคนที่ตามมา

ไร้สาระ

มีหมีมาว่าจะไปจำศีล
มีนกบินว่าจะร่อนถลา
มีฝูงลาว่าจะไปกินหญ้า
มีคนมาอ่านกลอนแล้วยิ้มเอย

ปลอบ

ปลอบประโลมโคมไฟให้แสงส่อง
ให้ได้มองที่ความหวังอยู่เสมอ
ขอเป็นฉันได้ไหมได้ใกล้เธอ
เพื่อเสนอคำปลอบใจหนุนแรงเธอ

เน้นใจ

ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเร็วเท่าใจ
จึงทำให้คนตามแสนเหนื่อยล้า
แต่นี่แหละคือความมีคุณค่า
ได้รู้ว่าทุกคนมีหัวใจ(ที่ไม่ใช่แค่ก้อนเนื้อ)

ปลวก

ปลวกทางเน็ตกัดกินบรรยากาศ
ปลวกใต้บ้านมันกัดเสาคานไม้
ปลวกน่ากลัวที่สุดอยู่ที่ใด
คือที่ใจอย่าปล่อยให้ปลวก(บาป)กินเอย

เรื่อง มาก

อาจหยุดนิดความคิดกายหยุดได้
แต่ห้ามใจหยุดจังหวะมิมีผล
ยิ่งเวลาผ่านผันกันทุกคน
อยู่ที่ตนจะเท่าไหร่จึงปล่อยวาง
เงื้อนเวลาคุณค่าได้เท่ากัน
แต่ละวันก้าวหันกันหาขวาง
จากสิบแปดไปสามสิบสี่สิบลาง
แล้วสุดทางคือคานหรือคู่ครอง

เลือกเปลี่ยน

เราอยากจะเปลี่ยนผู้อื่น เพื่อเขาจะดีขึ้น
เราอยากจะเปลี่ยนสังคม เพื่อสังคมจะดีขึ้น
เราอยากเปลี่ยนหลายอย่าง เพราะมันไม่เหมาะสม
แต่สิ่งที่เราไม่ควรลืมคือการ "เปลี่ยนตัวเอง"
และผลสะท้อนจากการที่คุณเปลี่ยน
จะทำให้โลกเปลี่ยนแน่นอน

ผูกสาม

สามสิบสองคือความครบร่างกาย
สามสิบปลายใจสลายเมื่อคานขัน
สามสิบเปลี่ยนจากรุ่นสู่ลุงพลัน
สามเรื่องนั้นใกล้ตัวคุณแน่นอน

กลับบ้านนอน

สู่ท้องถิ่นบ้านเรากันซักที
สถานที่วางหัวลงบนหมอน
เพื่อให้หยุดพักผ่อนได้หลับนอน
แล้วขอนอนฝันถึงเธออีกคืน

ทรงสร้าง

ทุ่งทอแสงแหล่งหล้าขจีไหว
เพนาไพรแสงใสส่องสอดต้น
สมุทธครามยามหาดสาดคลื้นชล
คือตัวตนการทรงสร้างพระบิดา

โอบไอ

โอบไอฟ้ากลิ่นดินถิ่นหวงหา
เนิ่นเวลาก้าวแล่นอ่อนเอนไหว
กิ่งแกว่งปลิวปลิดปรอยสลัดใบ
เมื่อฟ้าใหม่มาเยือนเหือดน้ำตา

ฟังเพลง

ฟังเพลงเศร้ารู้สึกเหงาขึ้นนิดหน่อย
เพราะว่าปล่อยใจลอยคล้อยแสเสียง
ยิ่งเพลงโสดสุดโหดอยากเร้นเลี่ยง
แต่สำเนียงส่อเสียดแทงให้หยุดฟัง

สระอา

ว่ามาว่าเวลาหาล้าลา
กาลเวลาหาหากหมางลาหาย
การงานผ่านกาลนานข้ามกาย
สานวานว่ายหาห้ามปรามเวลา

ยกเลิก

ขออยู่อย่างคนที่ไม่มีแฟน
ขออยู่แทนคนที่ไร้ความรัก
ขออยู่อย่างเดียวดายไร้หลักปัก
ขอเรื่องหนักข้างต้นไม่เป็นจริง

ไหว

ปลอบโยนโอนอ่อนเอนวิเวกไหว
แตกกิ่งใบกลางไพรอันเดี่ยวโดด
แต่เล็กน้อยเติบโตมาจนใหญ่โคตร
ใยครองโสดเดียวดายใต้แสงจันทร์