วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ถึงเธอ

อยากจะเอา นิ้วก้อย เกี่ยวก้อยเธอ
อยากจะเผลอ พร่ำรักเธอ มิเปลี่ยนผัน
อยากจะจับ ใจเรา มาผูกกัน
อยากมีวัน ที่ฉัน ได้คู่เธอ


เพ้อฉันเพ้อ ฝันถึง ตรึงพินิจ
คิดฉันคิด ถึงเธอ มิห่างหาย
รักฉันรัก เพียงเธอ มิเสื่อมคาย
แม้ชีพวาย ยอมตาย ได้เพื่อเธอ


ด้วยรอยยิ้ม สำเนียง เสียงสยาม
เรียงร้อยความ ทำนอง พ้องถ้อยเสียง
ตรึงจับขั้ว หัวใจ โดยพร้อมเพรียง
สุดจะเลี่ยง มิให้หลง ในตัวเธอ


ร้อยรอยยิ้ม พิมพ์ใน ฤทัยพี่
แสนยินดี เพียงเธอ ส่งยิ้มหวาน
สะกดตรึง ตราใจ ไว้เนิ่นนาน
ตลอดกาล ขอจำ แต่ภาพเธอ


ดุจดวงดาว พราวพร่าง กลางฟากฟ้า
เปรียบดารา ระยิบ กระพริบแสง
ทอความงาม ล่ามใจ ไร้เรี่ยวแรง
สวยทิ่มแทง คือเธอ ที่รักเอย


ปลายผมปลิว พริ้วพลอย ลอยลมเบา
ทิวลำเนา แห่งรัก ก้องประสาน
เนตรสำผัส แสงศิลป์ กู่กังวาล
ดุจตำนาน งามจริง ยิ่งในเธอ

วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551

หน้าเนื้อจิตอสุรา

ถ้อยแถลงกล่าวว่าสมานฉันท์

สัปดาห์ผันคนนั้นก็เริ่มเปลี่ยน

อำนาจมีในมือถือเสถียร

จึงร่ายเรียงแผนการผลาญผู้คน

จากหน้ายิ้มซ่อนในด้วยใจยักษ์

เพื่อพิทักษ์ปกปักสมัครผอง

ร่ายคำสั่งแตกหักประชาปรอง

สู่สยองโศกนาฏกรรมไทย

จากผู้เปรียบดุจเทพชั้นเทวา

เพียงมารยาเพื่อครองเขตคูขันต์

ตัวไม่อยู่ส่งเสียงดุจไฟกัลป์

เผาผลาญพลันชาติทรุดวิบัติเอย

ก้าว

ปลายทางอาจมิสม
ดังอารมณ์ที่มุ่งหมาย
แต่รู้ได้ลงลาย
มิเสียหายถ้าได้ทำ

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ถ้อย

อยากท่องไปในดินแดนวรรณกร
เรื่องราวสอนจ่ายข่าวรู้หลากมากสม
เปิดตาจิตดวงใจให้ได้ชม
ได้รื่นรมชมชื่นล้านขานเรียง
เพียงนิ่งนิดสงัดจิตเพรียกสัมผัส
กังวาลขับถ้อยข้อทออาศัย
ถ้วงทำนองมูลคำสัมผัสใน
ก่อวลีเรียงใหม่ห้วงร้อยกลอน