วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

น้ำตาหยดสุดท้าย

น้ำตาหยดสุดท้าจากขอบตาถูกปาดออกด้วยนิ้วชี้เรียวงาม
ย้อนไปถึงเรื่องราวเมื่อต้นปีก่อนที่
หญิงสาวต้องออกเดินทางออกจากบ้าน อู่ข้าวอู่น้ำ ประเทศอันเป็นที่รัก
บ้านเกิดอันมีความทรงจำมากมาย สู่เมืองที่ใหญ่กว่า ผู้คนพลุกพล่าน แออัดกว่า
แต่ก็เป็นทางเลือกของหัวใจอันบอบช้ำ
"ข้าว"เธอเลือกที่จะเดินทางสู่เส้นทางใหม่เพื่อหลีกหนีจากบรรยากาศที่คุ้นเคยสู่
คำว่าอนาคตซึ้งเธอไม่อาจนึกคิดได้
มายังดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่เต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมและความงามของสถาปัตยกรรม
ทั้งยุคเก่าและยุคใหม่ ทั้งเต็มไปด้วยนวัตกรรมอันสดใหม่ ทั้งศาสตร์และศิลป์ อันตระการ
สู่ความท้าทายที่จะลบ ความเจ็บปวดที่ถาโถมจนทำให้ คนที่เคยเป็นหญิงแกร่ง เข้มแข็ง ในอดีต
กลายเป็นคนที่เหม่อลอย ไม่อาจตระหนักในคุณค่าของชีวิตเหมือนเธอคนนั้นคนเดิมได้อีกต่อไป
นี่จึงเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ที่เธอเลือก
"ข้าว"เลือกที่จะเป็นผู้เยียวยาคราบน้ำตาแห่งการสูญเสีย
ของประชาชนผู้เจ็บปวดกับภัยพิบัติที่เกิดโดยน้ำมือของธรรมชาติ หรือที่คนบางกลุ่มเรียกว่าพระเจ้า
และผนวกผลสะท้อนแห่งอุทกภัยสู่การทำลายเทคโนโลยี แผ่ขยายรังสีที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์เอง
คร่าชีวิตและวิถีหลากหลายให้เปลี่ยนไป
เธอหวังว่าผลสะท้อนแห่งการเยียวยา จะนำไปสู่การกลับมาของ"ข้าว"คนเดิมอีกครั้ง
"ข้าว"เธอเป็นพยาบาลจบใหม่ด้วยดีกรีเกียรตินิยมและทำงานในโรงพยาบาลกลางเมืองหลวง
ของแผ่นดินที่ถูกขนานนามว่าเวนิสตะวันออก
ซึ่งเป็นโรงบาลอันมีชื่อเสียง เพราะแม้แต่ราชนิกูลราชวงศ์ ยังเข้ารับการรักษาที่นี่
อนาคตที่สดใสรอเธออยู่นี่คือภาพที่คนรอบข้าง พี่น้องผองเพื่อน ต่างชื่นชมและอิจฉาคละเคล้ากัน
เรื่องเริ่มขึ้นจาก เก้าอี้นั่งสบายสองตัวด้านหน้าในรถที่นั่งส่วนบุคคลคันงาม
เพลงคลอผสานเครื่องเสียงไพเราะดังเบาๆอยู่ภายใน สีขาวที่ถูกล้างมาอย่างใหม่เอี่ยม
เพื่อมารับ"ข้าว"ไปกินข้าวเย็นในวันนี้ ซึ่งน่าจะเป็นมื้อที่ใครๆอิจฉาเหมือนทุกวัน
ถ้าถ้อยคำคำหนึ่งไม่ถูกขับระบายออกมาจากสารถีผู้เงียบขรึม
กลับกลายเป็นฟ้าผ่าเข้ากลางใจที่เข้มแข็งของเธอ
"ข้าว.......ผมหมดรักคุณแล้ว"
.
.
.
.
ความเงียบเกาะกุมบุคคลทั้งสอง ทั้งที่รถยังคงวิ่งด้วยเสียงเครื่องสม่ำเสมอ เพลงบรรเลงต่อเนื่อง
เสียงแตรและคันเร่งของการจราจรในเมืองใหญ่ที่ยังคงเดิม
แต่รอยร้าวที่ถูกสร้างระหว่างคนทั้งสองได้ถูกเปลี่ยนไปเสียแล้ว
.
.
.
"คุณรู้ไหมว่ามันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่"
เสียงทุ้มลึกทำลายความเงียบที่เป็นเหมือนพรมกั้นระหว่างคนทั้งสอง
.
ความเงียบคือคำตอบสุดท้ายของเธอ
ไม่มีน้ำตา ไม่มีรอยยิ้ม มีแต่ความนิ่ง ซึ่งเกิดจากอารมณ์มากมายที่ถาโถม
ภาพรอยยิ้ม น้ำตา ทุกสิ่งย้อนมาหยุดอยู่ตรงวันหนึ่ง ของกลางปีที่ผ่านมา มันเป็นเดือนมิถุนาที่ข้ามผ่านกุมภา มากว่าสามเดือนแล้ว ของขวัญในมือ"ข้าว"ถูกส่งคืนด้วยคำพูดสั้นๆว่า"ผมไม่ชอบ"สองสามครั้ง
คำสั้นๆนี้สะท้อนเข้าไปภายในใจเธอปะทุอารมณ์ โกรธเบียดเบียนอารมณ์สำนึกผิดที่มีอยู่เดิม
เพราะเธอให้ของขวัญช้ากว่าวันเกิดจริงของชายหนุ่มเสียสิ้น
เหลือเพียงความคุกรุ่นที่ระเบิดเป็นเสียงโวยวาย ด้วยนิสัยมั่นใจของเธอ
ณ หน้าร้านเสื้อกลางห้างสรรพสินค้า ชื่อดังย่านกลางเมืองที่มีคนพรุกพร่าน
ในวันอาทิตย์ ตอนบ่ายค่อนไปทางเย็น ที่เต็มไปด้วยพนักงานบริษัท ครอบครัว นายจ้าง ลูกจ้าง
ที่เลือกวันสุดท้ายของสัปดาห์เป็นวันพักผ่อน
"ทำไม"คำที่ปนด้วยโทสะ"ทำไมเค้าตั้งใจเลือกให้ทำไมถึงปฏิเสธเค้า"
ภาพอดีตที่หมุนวนถูกหยุดลงตรงนี้
เหลือแต่ข้อคิดในใจ"ข้าว"และคำโต้เถียงเรื่องความอดทนของคนสองคน
ข้าวตระหนักได้ทันทีว่าคำที่เป็นเหมือนเหลี่ยมเพชรที่กระเทาะรอยร้าวให้บานปลายคือคำว่า
.
.
"แล้วคุณคิดว่าชั้นไม่รำคาญคุณหรือไง"
คำคำสุดท้ายที่หยุดบทสนทนาของคนทั้งสองในวันนั้น
ทุกอย่างเหมือนตั้งโปรแกรมไว้ดำเนินต่อจนจบวันที่คิดว่าเป็นวันธรรมดา
แต่กลับกลายมาเป็นคำตอบที่เงียบเชียบในวันนี้ของ"ข้าว"
.
.
ความเสียใจแล่นเข้ามาจุกอก คำพูดที่ตีบตันอยู่ในอก
และศักดิ์ศรีที่ค้ำคอเธออยู่ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปจนมีเสียงทำลายความเงียบอีกครั้ง
"เรายังเป็นเพื่อนกันนะผมยินดีไปรับไปส่งคุณเหมือนเดิม"
คำฟ้องผิดประดังเข้าสู่สี่ห้องหัวใจอย่างไม่อาจให้อภัยได้เลย
รถคันสวยจอดลงริมทางเท้าหน้าที่พักของ"ข้าว"
สีขาวเบลอค่อยๆ เลือนลางห่างออกไป ด้วยระยะทาง
และน้ำตาที่ล้นทะลักออกมาจากตาของเธออย่างมากมาย หยุดไม่ได้
ไม่รู้ว่าน้ำตาแห้งเมื่อไหร่
ไม่รู้ว่าวันคืนผ่านไปได้อย่างไร
ไม่รู้ว่าชีวิตในแต่ละวันดำเนินเช่นไร
แต่บรรยากาศรอบตัวยังคงเหมือนเดิม
เขายังคงทำหน้าที่เดิมไม่บกพร่อง คำพูดคุยเล็กน้อยระหว่างเดินทางยังเหมือนเดิม
แต่"ข้าว"ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
และแน่นอนผู้ที่สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้คือครอบครัวของ"ข้าว"
.
.
"ทำไมผอมอย่างนี้"
"ทำไมถึงเหม่อลอยไม่เหมือนเดิม"
"เป็นอะไรไป"
"ใครทำอะไร"
จากคำพูดธรรมดา ไปสู่คำด่าทอผู้ชายอันเป็นที่รักของเธอ
"กูบอกแล้วว่ามันเลว"
"มันไม่มีอะไรดีหรอก"
และคำหยาบ ยุแหย่ สบถ ที่ปะปนด้วยความห่วงใย และความรัก ที่บรรดาลเป็นอารมณ์โกรธ
คำแนะนำคำสอนมากมาย ถ้อยคำแห่งการชี้แนะมากมาย
พัดไหวและวนเวียนอยู่รอบตัวเธอเหมือนดั่งพายุ
ยังความรู้สึกให้เธอ ได้ยินเสียงสะท้อนเบาๆว่า "นี้คือบ้านที่อบอุ่นจริงเหรอ"
จม
ลึก
ลง
สู่
ความเหงาและการดูถูกตัวเอง
"ทำไมฉันเลวอย่างงี้"
"ทำไมฉันถึงพูดอย่างนั้น"
"ทำไมฉันถึงไม่คิดถึงหัวอกเขาบ้าง"
"ทำไมฉันถึงเลวอย่างนี้"
เหล่านี้นำเธอสู่การลาออก และนำสู่เขาวงกตวกวนจนเหมือนจะปิดตาให้บอดสนิท
เรื่อยๆ คือการดำรงชีวิตเธอในช่วงนี้ของชีวิตซึ่งมันไม่น่าเป็นไปได้กับคนอย่าง"ข้าว"
.
.
พี่เข้าใจมืออุ่นๆ หนาๆ แตะที่แผ่นหลังของเธอด้วยการสวมกอด
"ไหนเล่าให้พี่ฟังซิ"
คำพูดมากมายพรั่งพรูออกมาพร้อมน้ำตาที่เหมือนจะหยุดไหลไปนานแล้วของเธอ
"แล้วข้าวจะแก้ไขยังไง"
"ไม่รู้" คำตอบสั้นๆจากข้าว
"อยากขอโทษเขาไหม"คำพูดที่เธออยากได้ยินและเป็นความรู้สึกนับตั้งแต่วันที่เธอได้ยินคำฟ้าฝ่านั้น
การสนทนาที่เต็มไปด้วยการรับฟังนำพาแสงสว่างริบหรี่ที่เป็นเสมือนแสงในวังวนนี้
ก่อเกิดการตัดสินใจทำบางอย่างของข้าว
ความคิดที่จะเปลี่ยนบางอย่างเกิดขึ้นเธอตัดสินใจจะเดินทางไปเมืองนอกเพื่อหลีกหนีปัญหานี้อยู่แล้ว
ผ่านการตัดสินใจแบบลับๆของเธอ
แต่ก่อนการเดินทางครั้งนี้ได้นำพาเธอสู่การนัดพบ และการพูด"ขอโทษ"
ด้วยความสำนึกผิดมากมายที่ปิดซ้อนเอาไว้ระหว่างที่คบกับชายหนุ่ม ทั้งหมดที่ผ่านมา
ทุกอย่างดำเนินไป แต่สิ่งที่ได้มาคือคำถามสั้นๆ
"มันจะเปลี่ยนคุณได้จริงเหรอ"
ตามมาด้วยความเงียบจนถึงวันเดินทาง
.
เขาคนนั้นไม่ได้มาส่งเธอในวันนี้
เนื่องจากติดงานสำคัญของบริษัทก่อสร้างและจัดสรรที่ดินแห่งใหญ่ที่เขาทำงานอยู่
มีแต่การโอบกอดของคนในครอบครัวและคำพูดให้กำลังใจ
ซึ่งที่เป็นกำลังใจได้ดีที่สุดคงเป็นของพี่ชายที่ไม่ได้มาส่งเธอที่สนามบินในวันนี้
แต่เป็นคำพูดในตอนเช้ามืดก่อนมาขึ้นเครื่องว่า
"ไม่เป็นไรสิ่งที่เราอยากทำ และสิ่งที่ควรทำเราทำทั้งหมดและดีที่สุดแล้ว อย่าคิดมาก"
.
.
คำพูด
บทเรียน
เรื่องราว
การงานในที่ใหม่
น้ำตาที่ยังคงสูญเสียให้กับช่วงเวลาอดีตของชีวิด
ความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์
สลับกับความเศร้าที่เกิดจากความเอาแต่ใจของเธอ
การร้องไห้ที่ยังคงอยู่
อารมณ์เหม่อลอยที่ถูกสะกิดหลายครั้ง
ความเหนื่อยล้า
การนอนหลับสนิท
วันที่นอนไม่หลับ
สังคม
เพื่อน
คำปลอบ
คำด่า
รอยยิ้ม
เสียงหัวเราะ
.
เสียงเรียกของพนักงานสนามบินดังขึ้นพร้อมเสียงโทรศัพท์
การพูดคุยกับเพื่อน ซึ่งคือคนที่ทำให้เธอเปลี่ยนจังหวะการใช้ชีวิต
คำพูด ตารางนัดหมาย
และการตัดบทสนทนาเพื่อรีบทำตามคำแนะนำของพนักงานสนามบิน
ตอนนี้เธอนั่งผ่อนคลายอยู่บนเครื่องที่พร้อมจะเทคออฟ
นำพาเธอข้ามท้องนภาผืนเดิม
เธอปาดน้ำตาแห่งความปีติ และความคิดถึง
ที่เต็มไปด้วยมุมมองใหม่ของชีวิต
ข้ามฟ้านำเธอกลับบ้าน
ประสบการณ์มากมายที่หลั่งไหลเข้ามาตลอดหนึ่งปีในต่างแดน
จะไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้เลยหากเธอไม่เข้าใจ
คำคำนี้
"แม้ว่าเราจะเปลี่ยนทุกสิ่งรอบตัวได้ แต่ใจเราไม่เปลี่ยน ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"

8 ความคิดเห็น:

น้ำฝน กล่าวว่า...

บางครังมันยืดเยื้อไปนิดนึง บางทีอ่านรอบเดียวแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ต้องกลับไปอ่านซ้ำใหม่ในประโยคที่ผ่านมา
และด้วยความที่คำบางครั้งอาจจะไปนิดนึง ทำให้เรื่องน่าจะเศร้า เปนว่ามันเยอะไป
แต่คำที่ใช้ก็สวยดี บรรยายเห็นภาพ
แต่คิดว่า จากชื่อเรื่องแล้ว >> เนื้อเรื่องมันควรจะเศร้ากว่านี้ค่ะ
ประมาณนี้ ^^

แม่มดเอ กล่าวว่า...

อ่านแล้วชอบอ่ะค่ะ
แต่เอว่าภาษาที่ใช้เขียน
ยังไม่ค่อยสวยอ่ะค่ะ
เปลี่ยนแค่เรื่องนี้เอว่าโอนะค่ะ

Nuch Viyada กล่าวว่า...

ภาษาสวยมากเลยค่ะ เนื้อเรื่องก็โอเคนะ พี่ชอบค่ะ
นึกว่านักเขียนนิยายนะเนี่ย
อ่านแล้วเห็นภาพเลย
เขียเพิ่มอีกซักหน่อยแจ๋วเลยค่ะ

แม่มดเอ กล่าวว่า...

เนื้อเรื่องเปิดประเด็นเรียบ
ไม่ค่อยดึงคนให้อยากรุ้นตอนจบ
น่าจะเปิดเรื่องให้น่าค้นหากว่านี้
ส่วนเนื้อหาก็ดีค่ะ

Winter Borner Tang กล่าวว่า...

คือแบบว่า ต้องใช้จินตานาการขั้นสูงในการอ่านอะนะ ไม่ตั้งใจอ่านดีๆไม่เข้าใจอ

Winter Borner Tang กล่าวว่า...

เป็นเรื่องราวที่ พรรณนา ถึง สถานะการชีวิตนี้ มันช่างเข้าใจยากนัก

dreamie ^_^ กล่าวว่า...

ศัพท์ เยอะไปหน่อย นะค่ะ
แหละก็ ตรงที่ ตอนบ่ายค่อนไปทางเย็น ที่เต็มไปด้วยพนักงานบริษัท ครอบครัว นายจ้าง ลูกจ้าง เยอะ อ่ะ อ่านแล้ว งง!! แต่บรรยายได้เห็นภาพชัดเจนดีค่ะ
เปลี่ยนนิด ปรับหน่อย คงจะดีมาก ^_^
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรื่องก็ดีนะคะ
แต่ว่าอาจจะใช้คำซ้ำเยอะไป
หรือใช้คำผิดไปหน่อยนะคะ
ถ้าเราฝึกอ่านมากๆอ่านให้หลากาหลายก็จะทำให้มีคำศัพย์เยอะ มุมมองกว้างขึ้น จะทำให้แต่งดีขึ้นะคะ
แล้วเรื่องดูจบห้วนๆน่ะคะ เรือ่งดูเศร้าเราสามารถทำให้เศร้าได้อีกนะคะ หรืออาจมีเรื่องอื่นๆมาสนับสนุนให้ชวนอ่านได้อีกค่ะ

ที่เหลือดีแล้วค่ะ ปรับปรุงอีกกนิดหน่อยค่ะ
GBU